หลายคนที่ชื่อนชอบการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ หากจะดูในโทรทัศน์จอเล็กๆ ก็ต้องเพ่งสายตาจนปวดตา จะไปดูในโรงหนังก็ไม่ค่อยมีเวลา แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคอหนังอย่างเรา ด้วยการเนรมิตรห้องดูหนังในบ้าน ไม่ต้องง้อโรงหนังกันเลยทีเดียว
มาเริ่มกันเลยครับ ผมเป็นคนชอบดูภาพยนต์ คนนึง เลยซื้อโปรเจคเตอร์ DLP (ACER X1161) มาใช้ประมาณ 4-6 ปี เมื่อก่อนซื้อมาในราคา น่าจะประมาณ 19,000 – 20,000 บาท (จำเรื่องไม่ได้แต่อยู่ในราคาประมาณนี้) ซึ่ง DLP เป็นโปรเจคเตอร์ ที่มีความสว่างมากระบบเพราะมันเป็นการสะท้อนของแสง ซึ่งจะทำให้ไม่เสียแสงเหมือนกับ LCD
ระบบ LCD เป็นระบบที่แสงจะต้องทะลุละลวงผ่าน จอ LCD ที่แสดงภาพ ทำให้ความสว่างของแสง สู้ ระบบ DLP ไม่ได้ (เมื่อเทียบลูเมน เท่าๆ กัน) จนต่อมาได้ไปเจอข้อมูล โปรเจคเตอร์ระบบใช้แสง LED
ข้อดี ของโปรเจคเตอร์ LED คือ ไม่กินไฟ ไม่เปลืองไฟ ไม่ร้อนมาก มีอายุการใช้งานของหลอดไฟ นาน 20,000-30,000 ชั่วโมง และราคาถูก
ข้อเสีย ของโปรเจคเตอร์ LED คือ ความสว่างอาจสู้ระบบ ซีนอน ไม่ได้ พอรู้ว่ามีระบบนี้ก็เลยหาข้อมูลโปรเจคเตอร์ดู เรื่อยๆ มีทั้ง ระบบ DLP และ LCD (DLP และ LCD คือระบบสร้างภาพ ส่วน LED และ ซีนอน คือระบบแสง) ได้ข้อมูลมาหลายอย่างและหลายราคา แต่หาดูอันที่ถูกๆ ได้แก่ โปรเจคเตอร์จากจีน ระบบภาพเป็น LCD ส่วนระบบแสงเป็น LED ผมลองซื้อมา 2 ตัว คือ
1. UNIC UC40+ ราคา 2,100 บาท ความสว่าง 800 ลูเมน ความละเอียด 800X480
2. RD 806 ราคา 6,800 บาท ความสว่าง 2800 ลูเมน ความละเอียด 1280X800
ซึ่งเมื่อทดสอบ UC40+ แสงไม่ค่อยสว่าง ต้องดูในที่มืดจริงๆ ส่วน RD 806 พอใช้ได้ แต่ความสว่างสำหรับผมก็ยังไม่ค่อยพอใจ เท่าไหร่ แต่ก็ซื้อมาแล้ว สิ่งที่ตัดสินใจซื้อก็เพราะว่า อยากเอาไว้ดูทีวี เล่นๆ เปิดทิ้งเปิดขว้างได้ ไม่เปลืองไฟ ดูไปเพลินๆ ไม่คิดเสียดาย เพราะราคาถูก อีกอย่างหลอดกำเนิดแสง ราคา ประมาณ 1,000 บาท (เมื่ือหมดอายุ 20,000 ชั่วโมง) แต่ข้อดี ของ RD 806 คือ ภาพที่ฉายออกมาชัด และละเอียด ถือว่าโอเคเลยครับ
ซึ่งผมก็ใช้ RD 806 ดูทุกๆ วัน ในห้องนอน (ซึ่งดูได้ครับแค่แสงน้อยไปหน่อยสำหรับผมนะ คนอื่นไม่รู้ครับ) ผมฉายอยู่ในขนาดจอ 260X152 CM.ครับ ก็เกือบเต็มห้องครับ นอนดูเต็มตา เต็มใจเลยครับ ปกติผมในวัสดุจอคือ ไวนิล ใช้ด้านที่ไม่มันเงาครับ ภาพจะออกมาหม่นๆ ไม่ใส ไม่เคลีย
หลังจากนั้นผมลองหาข้อมูลดูวัสดุจอที่ทำให้แสงสว่างมากขึ้น จึงได้เจอ จอเงิน แล้วผมก็หาวัสดุ ต่างๆ ที่จะทำให้ได้จอเงิน คือ ผ้าร่มที่เคลือบยูวี แต่ขนาดมันไม่มีที่ใหญ่พอที่ผมต้องการ คือหน้าของผ้า 150 เซน เอง ผมเลยไปหาสีเงินที่มีเกล็ดเพื่อให้แสงมันสะท้อนได้มากขึ้น
ผ้าร่มผมลองซื้อมาทดลองดู เมตรละ 100 บาท จะยาวเท่าไหร่ก็ได้ แต่หน้ากว้าง 150 CM. (ภาพที่ได้สว่างกว่าจอ สีขาวธรรมดา และให้ความสดใสมากกว่า ไม่หม่น เหมือนสีขาว)
จอเงินขนาด 155X267 CM. พื้นวัสดุคือไวนิลขึงกับเฟรมไม้ แล้วทาสีรองพื้นด้วยสี TOA 201 รูฟซิล เพื่อให้สีเงินยึดติดกับ ไวนิลโดยที่ไม่ร่อนออกมาเป็นแผ่นๆ (ผมเคยลองใช้สีเงินพ่นลงไปกับไวนิล แล้วขูดๆดู มันจะร่อนออกมาเป็นแผ่นๆ สีไม่ติดกับเนื้อไวนิล)
สี TOA รูฟซิล ใช้สำหรับรองพื้นไวนิล (ราคา 750 บาท ) ผมใช้แปลงทาสีลงไป แต่ควรระวังคือเวลาทาต้องพรมน้ำให้สีมันไม่ข้นมาก ถ้าข้นมากเวลาทามันจะเป็นรอยหนาๆไม่เท่ากัน ซึ่งจอเงินนั้นมันต้องไม่มีรอยไดๆ เลยยิ่งดี เช่น รอยการขึงไวนิลไม่ตึง รอยที่เป็นริ้วๆ ต่างๆ ถ้ามีรอยจะทำให้ไปปรากฎบนจอได้ (เหมือนภาพจอด้านบน ที่มีรอยด่างๆ)
สีเงิน ราคา 150 บาท (ผมใช้อีกยี่ห้อนึงนะ ซึ่งจำไม่ได้ผมทิ้งกระป๋องมันไป ราคา 150 บาทเท่ากัน แต่มันมีเกล็ดเงินที่ ยิบยับกว่าอันนี้) หรือใช้อันนี้ก็ไม่ต่างกัน วิธีการของผมคือการพ่นลงไปบนไวนิล ข้อควรระวังคือต้องพ่นให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและให้สีออกมาสมำ่เสมอกัน ไม่งั้นจะเห็นว่ามันด่างๆ ในแต่ละมุมที่มอง)
.
โปรเจคเตอร์ จากจีน รุ่น RD 806 ราคา 6,800 บาท (ซื่อจาก PROJECTOR ON SALE เฟสบุค) ติดตั้งไว้บนหัวนอน ทำที่วางให้มัน
โปรเจคเตอร์ RD 806 มีรุ่นที่ติดตั้งแอนดรอยเลย ก็มี ราคาประมาณ 8200 บาท ซึ่งผมไม่ชอบแอนดรอย เวอชั่นเก่า แค่นั้นเอง ผมเลยไปหากล่องแอนดรอยเวอชั้นใหม่มาติดแทน ราคา 1,250 บาท ซึ่งได้เวอร์ชั่นใหม่กว่า และถูกกว่า 200 บาท เมื่อเทียบกับ ซื้อ RD 806 รุ่นแอนดรอย
อันนี้ คือ กล่อง แอนดรอย MXQ PRO 4K ราคา 1,250 บาท จาก LAZADA (ได้เวอชั่นใหม่กว่า) เอาไว้ต่อกับโปรเจคเตอร์ ดูหนัง ดูยูทูป ดูทีวี สบายๆเลยครับ (ซื้อเม้า BT มาใช้นอนคลิกๆ เปลี่ยนช่อง อีกตัว) ฟินๆ เรามาดูภาพเมื่อติดตั้งจอเงินแล้ว ขนาดจอ 155X267 CM. (หรือลองเทียบกับเก้าอี้สีเหลืองดูครับ)
ครั้งแรกที่เปิดโปรเจคเตอร์ โดยที่ผมไม่ได้ปิดไฟ หลักของห้อง (ไฟหลักอยู่ด้านบนและติดอยู่ด้านหน้าของจอเงิน โคมไฟหลักเป็นหลอด LED ประมาณ 28 W สองโคม LED 28w สว่าง ประมาณ น่าจะ 100W ได้) รู้สึกว่ามันสว่างเหมือนกับจอทีวีพลาสม่า มันมีความส่องสว่างออกมาจากจอ
ซึ่งแตกต่างจากจอสีขาวที่ผมเคยใช้อย่างชัดเจน และให้ภาพที่สดใส สีขาวๆก็จะขาวสดใส กว่าโปยปกติสีขาวๆจะหม่นๆ ไม่ขาวใส ซึ่งสามารถเปิดไฟดูได้เลย เหมือนจอทีวีเลยครับ
แต่มีข้อเสียคือ ไม่สามารถมองในมุมข้างๆได้ มันจะมองไม่เห็น และจะต้องมีมุมดูคือ ด้านหน้าจอ เท่านั้น อีกอย่างถ้าอยู่มุมเฉียงๆ ภาพที่อยู่ไกลๆ อีกฝั่งของจอจะไม่สว่างเท่ากับมุมที่อยู่ตรงหน้า ครับ (ประมาณว่าการสะท้อนของแสงมันสะท้อนไม่ตรงกับตำแหน่งที่เรามอง
โปรเจคเตอร์ จากจีน ที่ตอนแรกผมคิดว่า จะใช้มันเล่นๆ แต่เมื่อนำมาใช้กับจอเงิน แล้ว มันได้ผลที่ผมไม่คาดว่าจะได้ มันให้แสงที่ส่องสว่างหมือนจอทีวีพลาสมา (จอยักษ์) เลยครับ แล้วยิ่งปิดโคมไฟหลักสองดวงที่ส่องหน้าจอ ภาพชัดเจน มากครับ (UHD) สีสัน สว่างสดใส และภาพชัดมากครับ อีกอย่างเปิดทิ้งเปิดขว้างได้เลย เพราะราคาถูก 5555555 อะไหล่ก็ถูก ผมว่าโดยส่วนตัวคุ้มมากๆ กับราคา นี้ ดูทีวี ดูหนัง ดูยูทูป สบายๆ
สรุปงบประมาณ
1. โปรเจคเตอร์ RD 806 = 6,800 บาท
2. กล่องแอนดรอย MXQ PRO 4K = 1,250 บาท
3. สีเงิน 1 กระป๋อง = 150 บาท
4. สี TOA รูฟซิล = 750 บาท
5. ไวนิล ขนาด 2X3 เมตร = 450 บาท
6. ไม้โครง จอ 350 = บาท
7. ทินเนอร์ กระป๋อง ล้างอุปกรณ์ = 150 บาท
8. แปลงทาสี = 40 บาท
ทั้งหมดใช้ไป 9,940 บาท ครับ
(ไม่รวมค่าเดินทางไปซื้ออุปกรณ์ ค่าแรง ค่าค้นคว้าหาวัสดุ ค่าเวลาที่เสียไปกับงานวิจัยนี้) 55555555 ส่วนเครื่องเสียงก็ทางใครทางมันครับ แล้วแต่ งบ (สำหรับแอนดรอย ที่ผมใช้ ให้เสียง 5.1 ครับ แค่หาเครื่องเสียง 5.1 มาติดตั้งก็กระหึ่ม ทั่วฟ้าเมืองไทยไปเลย
หากใครสนใจลองไปทำกันดูครับ สำหรับตัวผม รับรองว่าคุ้ม อีกอย่างผมมีการ SET ปรับตั้งค่า ของ RD 806 ที่จะทำให้ภาพ คมกริ๊บๆ สามารถถามได้นะครับ
ที่มา : naibann.com